ฮือฮา! สัปเหร่อสาวดีกรีปริญญาตรี สืบทอดวิชาจากบรรพบุรุษ

ฮือฮา! สัปเหร่อสาวดีกรีปริญญาตรี สืบทอดวิชาจากบรรพบุรุษ

สัปเหร่อสาวดีกรีปริญญาตรี สืบทอดวิชาจากบรรพบุรุษ โดยช่วยผู้เป็นพ่อดูแลสามวัดในเขตอำเภอสามโก้ นานกว่า 3 ปี

     สัปเหร่อสาว อายุ 25 ปี ดีกรีปริญญาตรี สาขาคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สืบทอดวิชาจากบรรพบุรุษ โดยช่วยผู้เป็นพ่อดูแลสามวัดสามขาว วัดท่าชุมนุม และวัดโบสถ์ ในเขตอำเภอสามโก้ นานกว่า3ปี นางสาว นฤมล(เอ๋) ด้วยทอง อายุ 25 ปี เปิดเผยว่า หลังเรียนจบมาแล้วได้ทำงานเป็นผู้ช่วย บรรณารักษ์ ในห้องสมุดโรงเรียนแห่งหนึ่งหลังหมดสัญญาจ้างก็มาทำงานเป็นผู้ช่วยในงานจัดทำข้อมูลสาธารณสุขได้ 3 เดือนก็หมดสัญญาจ้าง และทางพ่อและน้องที่เป็นสัปเหร่อนั้นมีงานล้นมือตนเองจึงได้ทำเรียนรู้และทำงานเป็นสัปเหร่อช่วยพ่อ

     โดยครอบครัวของตนเองเป็นสัปเหร่อมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่ง นายวินัย ด้วงทอง อายุ 57 ปี พ่อของตนเองได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากปู่ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อดูแลถึงสามวัดและได้ถ่ายทอดวิชาให้น้องชายเป็นเป็นผู้ช่วยดูแลหลังจากมีคนเสียชีวิตมากขึ้นผู้เป็นพ่อและน้องชายงานล้นมือตนเองจึงได้เข้าไปช่วยเหลือผู้เป็นพ่อและน้องชายเรียนรู้วิชาสัปเหร่อสืบทอดและช่วยกันทำมานานกว่า 3 ปีแล้ว

สัปเหร่อสาวดีกรีปริญญาตรี

     นางสาวนฤมล กล่าวว่า ตนเองมีความภาคภูมิใจในอาชีพสัปเหร่อ และต้องมีใจรักในอาชีพ ซึ่งผู้เป็นพ่อได้สั่งสอนวิชาความรู้วิธีการเบิกโลง การมัดตราสัง เตรียมเมรุเผาศพ เก็บ กระดูกของศพที่เผาก่อนหน้า ไม่ให้ปะปนกับศพที่กำลังจะเผา และขอซื้อที่จากเทวดาเจ้าที่ชื่อ "ตากะลี ยายกะลา" ก่อนการเผา สัปเหร่อจะเปิดโลงและตัดด้ายที่มัดมือ มัดเท้าศพ และล้างหน้าศพด้วยน้ำมะพร้าว ทำพิธีกรรมตามศาสนา พร้อมนำเข้าเมรุ ทำการเผาและจะมากทำการเก็บกระดูกในวันรุ่งขึ้น

     ซึ่งในการเผาแต่ละวัดนั้นมีความยากง่ายอยู่ที่เตาเผาที่เป็นไฟฟ้าหรือใช้ถ่าน หากเป็นเตาเผาศพที่ใช้ไฟฟ้าก็จะทำได้รวดเร็วและดีกว่าเตาเผาศพที่เป็นถ่านเนื่องจากต้องใช้เวลานาน ที่ผ่านมามีประชาชนพบเห็นว่าเป็นสัปเหร่อหญิงแล้วมีคำชมซึ่งเป็นความภาคภูมิใจและมีกำลังใจในการทำงานและจะทำอาชีพสัปเหร่อต่อไป พร้อมกับเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน ควบคู่กับการขายของชำที่บ้าน พร้อมขายก๋วยเตี๋ยวช่วยเหลือครอบครัวต่อไป ข่าวด่วนวันนี้